องค์การยูนิเซฟเขามีผลสำรวจออกมาว่า....
อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวตลอด 6 เดือนแรกของคนไทยถือว่าต่ำที่สุดในทวีปเอเชีย
และยังเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในโลกอีกด้วย มีเด็กเพียง 5.4 % หรือ ประมาณ 43,000 คน
จากจำนวนเด็กแรกเกิดทั้งหมดประมาณ 800,000 คน โดยกรุงเทพมหานคร
มีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวลดลงเหลือเพียง 1.1% ซึ่งต่ำที่สุดในประเทศ
นับว่าเป็นตัวเลขร้ายๆ ของคนไทยอีกแล้ว !...(ซวยอีกแล้วละซิเนี่ย)
หลังจากที่การศึกษาของคนไทยอยู่อันดับโหล่ เดินตุ้มต๊ะ ตุ้มตุ้ย...ตามหลังเขมร
เรื่องนี้ท่าน...รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ้างว่า... ข้อมูลของ WEF มีความน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง....(แสดงว่ามันเป็นความจริง)
แล้วตอนนี้การศึกษาในประเทศไทยเกิดการตื่นตัวกันหรือยัง ?
ศึกษากันหรือยังว่าทำไมการจัดการศึกษาของเราถึงแพ้ประเทศกัมพูชา ?
รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กล่าวว่า...เท่าที่ได้ศึกษาประเทศในกลุ่มอาเซียนใน 4-5 ปีที่ผ่านมา
พบว่า ส่วนใหญ่จะเข้ามาศึกษาข้อมูลต่างๆ ในประเทศไทย และนำความรู้ต่างๆ กลับไปพัฒนาประเทศ
ขณะที่ปัญหาการศึกษาของไทยเดินหน้าไปแทบทุกวัน
แต่กระบวนการแก้ปัญหายังคงเดินถอยหลัง ติดหล่ม ไม่มีความต่อเนื่อง...
...ขำกลิ้งดีมั่ยเนี่ย...
แถมบอกอีกว่า....
....มีปัญหาเด็ก 1.6 ล้านคนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่
เป็นปัญหาเดิมที่เราพยายามแก้มาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
พยายามมา 20 ปี แล้วนะ..เจ้าข้าเอ๊ย...!
ขึ้นต้นเรื่อง...นม...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการศึกษา...
เขาเล่าว่า....
มันสืบเนื่องมาจากรายงานข่าวผลการสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญาเด็กนักเรียนไทย
พบว่า ค่าเฉลี่ยระดับสติปัญญาของเด็กไทยในระดับประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ปกติที่ค่อนไปทางต่ำ
(98.59 จุด)
......อ่ะ...พยายามมาแล้ว 20 ปี...ต่อให้ อีกชาตินึงละกัน......
ฟังพญ.ยุพยง แห่งเชาวนิช....เลขาธิการมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เล่ามั่ง..
หมอบอกว่า.....หนึ่งในทางออกของปัญหาเด็กไทยไอคิวต่ำ ต้องกลับมาแก้ที่ภาวะโภชนาการของเด็ก
ซึ่งผลสำรวจพบว่า ระยะเวลาการดื่มนมแม่ มีผลต่อระดับคะแนนไอคิวที่สูงขึ้น....
หมอบอกว่า....เด็กที่ดื่มนมแม่นานกว่า 6 เดือน มีระดับคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเด็กที่ดื่มน้อยกว่า 3 เดือน
และสูงกว่าเด็กที่ไม่ดื่มนมแม่เลยประมาณ 3 จุด
อ๊ะ...ชักจะเริ่มเห็นความสำคัญของ...นม...ขึ้นมารำไรแล้วซิ !
เขาเล่าว่า...มันสอดคล้องดองกันได้กับงานวิจัยจาก Brown University ที่ระบุว่า...
....การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เสริมสร้างการพัฒนาของสมองได้ 20-30% ซึ่งเด็กที่กินนมแม่ล้วนๆ
จะมีการเติบโตของสมองมากกว่าเด็กที่กินนมแม่เสริมด้วยนมผง และเด็กที่กินนมผงอย่างเดียว
นอกจากนี้ข้อมูลสนับสนุนจาก Oxford University, Cambridge University,
The Institution for Social and Economic Research และ Essex University
ต่างเปิดเผยถึงผลงานวิจัยที่สอดคล้องกันว่า ...
เด็กที่ได้รับนมแม่ล้วนๆ จะได้รับการพัฒนาศักยภาพและทักษะด้านภาษาได้ถึงอายุ 3 ขวบ
มุมมองอีกด้านหนึ่งของหมอเด็ก..
พญ.กุสุมา ชูศิลป์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
และกรรมการมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เอางานวิจัยมาวางแผ่ให้เห็นว่า....
.....การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะเพิ่มระดับสติปัญญาของเด็ก 3-8 จุด
เนื่องจากในนมแม่มีสารบำรุงสมอง และหากได้รับการกินนมแม่อย่างต่อเนื่อง
จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์สมองเป็นอย่างดี....
.....สมองลิมบิกที่ควบคุมการเรียนรู้ในช่วง 12 ปีแรก จะเปิดเมื่อทารกและเด็กมีความสุขขณะเรียนรู้
เพื่อให้เด็กจดจำสิ่งที่เรียนรู้โดยไม่ตั้งใจ และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเรียนรู้แบบใช้สมองเป็นฐาน
การเริ่มต้นโอบกอดลูกเนื้อแนบเนื้อและให้ลูกดูดนมแม่ทันทีหลังเกิด
ช่วยกระตุ้นการเปิดหน้าต่างเรียนรู้สำหรับการเจริญเติบโตของทารก.....
เห็นมั้ย...นม...ใครคิดว่าไม่สำคัญ...
อย่ากระนั้นเลย เรา มาดื่มนมแม่กันเถอะ....ง่า...ไม่ใช่ซิ...
...เรามาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กันเถอะ...(ยุคนอื่นก็ได้นะ)...!!
หมายเหตุ : สำหรับท่านกำลังจะแต่งงาน ท่านที่กำลังคิดจะมีบุตร
ท่านที่ไม่มีบุตร ไม่คิดจะแต่งงาน บ่ เกี่ยวเด้อ
====================ความสำคัญของนม...มันเป็นฉะนี้ !===================
อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวตลอด 6 เดือนแรกของคนไทยถือว่าต่ำที่สุดในทวีปเอเชีย
และยังเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในโลกอีกด้วย มีเด็กเพียง 5.4 % หรือ ประมาณ 43,000 คน
จากจำนวนเด็กแรกเกิดทั้งหมดประมาณ 800,000 คน โดยกรุงเทพมหานคร
มีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวลดลงเหลือเพียง 1.1% ซึ่งต่ำที่สุดในประเทศ
นับว่าเป็นตัวเลขร้ายๆ ของคนไทยอีกแล้ว !...(ซวยอีกแล้วละซิเนี่ย)
หลังจากที่การศึกษาของคนไทยอยู่อันดับโหล่ เดินตุ้มต๊ะ ตุ้มตุ้ย...ตามหลังเขมร
เรื่องนี้ท่าน...รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ้างว่า... ข้อมูลของ WEF มีความน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง....(แสดงว่ามันเป็นความจริง)
แล้วตอนนี้การศึกษาในประเทศไทยเกิดการตื่นตัวกันหรือยัง ?
ศึกษากันหรือยังว่าทำไมการจัดการศึกษาของเราถึงแพ้ประเทศกัมพูชา ?
รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กล่าวว่า...เท่าที่ได้ศึกษาประเทศในกลุ่มอาเซียนใน 4-5 ปีที่ผ่านมา
พบว่า ส่วนใหญ่จะเข้ามาศึกษาข้อมูลต่างๆ ในประเทศไทย และนำความรู้ต่างๆ กลับไปพัฒนาประเทศ
ขณะที่ปัญหาการศึกษาของไทยเดินหน้าไปแทบทุกวัน
แต่กระบวนการแก้ปัญหายังคงเดินถอยหลัง ติดหล่ม ไม่มีความต่อเนื่อง...
...ขำกลิ้งดีมั่ยเนี่ย...
แถมบอกอีกว่า....
....มีปัญหาเด็ก 1.6 ล้านคนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่
เป็นปัญหาเดิมที่เราพยายามแก้มาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
พยายามมา 20 ปี แล้วนะ..เจ้าข้าเอ๊ย...!
ขึ้นต้นเรื่อง...นม...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการศึกษา...
เขาเล่าว่า....
มันสืบเนื่องมาจากรายงานข่าวผลการสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญาเด็กนักเรียนไทย
พบว่า ค่าเฉลี่ยระดับสติปัญญาของเด็กไทยในระดับประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ปกติที่ค่อนไปทางต่ำ (98.59 จุด)
......อ่ะ...พยายามมาแล้ว 20 ปี...ต่อให้ อีกชาตินึงละกัน......
ฟังพญ.ยุพยง แห่งเชาวนิช....เลขาธิการมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เล่ามั่ง..
หมอบอกว่า.....หนึ่งในทางออกของปัญหาเด็กไทยไอคิวต่ำ ต้องกลับมาแก้ที่ภาวะโภชนาการของเด็ก
ซึ่งผลสำรวจพบว่า ระยะเวลาการดื่มนมแม่ มีผลต่อระดับคะแนนไอคิวที่สูงขึ้น....
หมอบอกว่า....เด็กที่ดื่มนมแม่นานกว่า 6 เดือน มีระดับคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเด็กที่ดื่มน้อยกว่า 3 เดือน
และสูงกว่าเด็กที่ไม่ดื่มนมแม่เลยประมาณ 3 จุด
อ๊ะ...ชักจะเริ่มเห็นความสำคัญของ...นม...ขึ้นมารำไรแล้วซิ !
เขาเล่าว่า...มันสอดคล้องดองกันได้กับงานวิจัยจาก Brown University ที่ระบุว่า...
....การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เสริมสร้างการพัฒนาของสมองได้ 20-30% ซึ่งเด็กที่กินนมแม่ล้วนๆ
จะมีการเติบโตของสมองมากกว่าเด็กที่กินนมแม่เสริมด้วยนมผง และเด็กที่กินนมผงอย่างเดียว
นอกจากนี้ข้อมูลสนับสนุนจาก Oxford University, Cambridge University,
The Institution for Social and Economic Research และ Essex University
ต่างเปิดเผยถึงผลงานวิจัยที่สอดคล้องกันว่า ...
เด็กที่ได้รับนมแม่ล้วนๆ จะได้รับการพัฒนาศักยภาพและทักษะด้านภาษาได้ถึงอายุ 3 ขวบ
มุมมองอีกด้านหนึ่งของหมอเด็ก..
พญ.กุสุมา ชูศิลป์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
และกรรมการมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย เอางานวิจัยมาวางแผ่ให้เห็นว่า....
.....การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะเพิ่มระดับสติปัญญาของเด็ก 3-8 จุด
เนื่องจากในนมแม่มีสารบำรุงสมอง และหากได้รับการกินนมแม่อย่างต่อเนื่อง
จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์สมองเป็นอย่างดี....
.....สมองลิมบิกที่ควบคุมการเรียนรู้ในช่วง 12 ปีแรก จะเปิดเมื่อทารกและเด็กมีความสุขขณะเรียนรู้
เพื่อให้เด็กจดจำสิ่งที่เรียนรู้โดยไม่ตั้งใจ และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเรียนรู้แบบใช้สมองเป็นฐาน
การเริ่มต้นโอบกอดลูกเนื้อแนบเนื้อและให้ลูกดูดนมแม่ทันทีหลังเกิด
ช่วยกระตุ้นการเปิดหน้าต่างเรียนรู้สำหรับการเจริญเติบโตของทารก.....
เห็นมั้ย...นม...ใครคิดว่าไม่สำคัญ...
อย่ากระนั้นเลย เรา มาดื่มนมแม่กันเถอะ....ง่า...ไม่ใช่ซิ...
...เรามาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กันเถอะ...(ยุคนอื่นก็ได้นะ)...!!
หมายเหตุ : สำหรับท่านกำลังจะแต่งงาน ท่านที่กำลังคิดจะมีบุตร
ท่านที่ไม่มีบุตร ไม่คิดจะแต่งงาน บ่ เกี่ยวเด้อ